ขอร้องเรียนกระเป๋ารถเมล์ครีมแดงสาย 75

ประเภท: 
ร้องเรียนรถองค์การ
วันพฤหัส 8 พ.ย.61รถเมล์สาย 75ครีมแดง เลขข้างรถหมายเลข 5-40470 เลขทะเบียนรถ 12-0365 รถออกวิ่งเวลา 14:20น. ฉันขึ้นรถที่อู่รถธารทิพย์เพื่อจะออกไปธุระข้างนอก กระเป๋ารถผู้หญิงรูปร่างอ้วน เตี้ย ดำ ฟันเหยิน เสียงห้าว ทำการปลดล็อคเครื่องแสกนบัตรสวัสดิการรัฐไม่เป็นต้องให้คนขับมาจัดการให้ ฉันก็รอให้เขาจัดการเครื่องสแกนให้เสร็จ หลังจากรถออกวิ่งมาระยะนึงจนมาหยุดติดไฟแดงอยู่ปากซอยพุทธบูชา 36 กระเป๋าก็ยังไม่มาเก็บตังค์มัวแต่ง่วนอยู่กับกระป๋องเงินซึ่งจริงๆควรจัดการให้เสร็จก่อนขึ้นรถแล้ว ฉันเห็นจังหวะเหมาะว่ารถไม่โคลงเคลงแวดล้อมเสียงไม่ดังเลยลุกจากเก้าอี้เอาบัตรสวัสดิการรัฐไปสแกนที่เครื่องซึ่งเครื่องสแกนตัดเงินในบัตรแล้วและเสียงสัญญาณว่าตัดเงินแล้ว ดัง"ติ๊ด"เสียงดังมากไปทั่วทั้งรถแล้วฉันก็กลับไปนั่งที่เดิม พอรถวิ่งออกจากปากซอยพุทธบูชา36คนเก็บเงินหรือเรียกว่ากระเป๋าก็เดินมาที่ฉันจะเก็บเงินฉันจึงโชว์บัตรสวัสดิการรัฐให้กระเป๋าดูและบอกว่าสแกนบัตรแล้ว กระเป๋าถามฉันสแกนแล้วหรอไม่เห็นได้ยิน ฉันจึงพูดย้ำอีกครั้งว่าสแกนแล้วเมื่อกี้ไม่ได้ยินหรอแล้วกระเป๋าก็เอาบัตรสวัสดิการรัฐฉันไป ฉันคิดว่าจะเอาไปดูตราสัญลักษณ์บนบัตรแล้วจะคืนให้แต่เปล่าเลย ดันเอาบัตรสวัสดิการของฉันไปสแกนที่เครื่องให้ตัดเงินในบัตรซ้ำอีกรอบ กระเป๋าคนนี้ทำกับฉันแบบนี้ครั้งนี้เป็นครั้งที่2 และอ้างเหมือนเดิมว่าไม่เห็นได้ยินว่าสแกนบัตรแล้ว ฉันไม่พอใจมากๆจึงขึ้นเสียงไปว่าสแกนบัตรแล้ว สแกนแล้วตอนรถติดไฟแดงตรงปากซอยพุทธบูชา36 เมื่อกี้ไม่ได้ยินรึไง มาเอาบัตรฉันไปสแกนซ้ำให้เครื่องมันตัดเงินซ้ำทำไม อย่างงี้ฉันก็เสียเงินเบิ้ล2 ครั้งสิ ก็บอกแล้วว่าสแกนแล้ว กระเป๋ายังงี่เง่าบอกไม่ได้ยินกำลังจัดการกระป๋องเก็บเงินอยู่และบอกว่าไม่เห็นมันโชว์ว่าตัดเงิน6.50 บ.แล้ว เลยต้องเอาไปสแกนซ้ำ ฉันขอถามหน่อยเถอะกระเป๋า ขสมก.ทุกคนมายืนเฝ้าเครื่องกันไม๊ว่าเครื่องตัดเงินในบัตรลูกค้าได้จริงทุกรายหรือเปล่า ทำไมไม่มายืนเฝ้ากันหล่ะถ้าจะอ้างแบบนี้ ระหว่างทางที่รถวิ่งเวลาลูกค้าก้าวขึ้นบันไดก็ไม่เห็นจะสนใจมาคอยดูหรือสนใจฟังเลยว่าคนไหนสแกนบัตรบ้าง บัตรตัดเงินได้จริงป่าว และขอบอกเลยนะคะว่าคนเก็บเงินคนนี้มีพฤติกรรมในการทำงานไม่เหมาะสมหลายเรื่อง สังเกตุมาหลายครั้งแล้ว ฉันเคยให้เงินค่ารถไป 20 บาท 50 สตางค์ โดยให้แบงก์ 20 ก่อนแล้วเอา 50 สตางค์วางตามวางไว้บนแบงก์ ซึ่งจะต้องได้เงินทอนเป็น 14 บาท แต่เขากลับทอนมาเป็น 13.50 บาท ฉันเห็นมี 50 สตางค์ทอนกลับมาฉันแกล้งถามพี่ทอนผิดป่าว เขาเอาไปนับสรุปทอนขาดเลยเปลี่ยนเหรียญให้แล้วแทนที่จะพูดขอโทษที่ทำงานพลาด แต่เปล่าเลยกลับตะคอกใส่ฉัน เสียงดังลั่นรถลูกค้าก็อยู่กันเต็มคันรถด้วยคำว่า "เจ๊าแล้วนะ เจ๊าแล้วนะ เจ๊าแล้วนะ" ชักสีหน้ากวนๆใส่ฉันด้วย ฉันถึงกับอึ้งพูดไรไม่ออกไม่คิดกระเป๋าจะพูดจาแบบนี้ใส่ ฉันเป็นคนใจเย็นเลยไม่คิดจะเอาเรื่องในตอนนั้น ทำเป็นลืมๆไปซะหวังว่าคงจะไม่ได้เจอกันอีก แต่ฉันคงเป็นคนโชคร้ายมั้งที่ได้เจอกับกระเป๋าคนนี้อีกหลายครั้งมีอีกครั้งนึงขึ้นรถที่ต้องเสียเงิน ปกติก่อนฉันจะขึ้นรถเมล์ฉันต้องเตรียมตังค์ให้พร้อมนับไว้ให้ครบแล้วถือไว้ในมือ เพื่อขึ้นรถจะได้ไม่เสียเวลาหาเงินถ้ามัวหาเงินไม่จับราวยึดพอรถออกวิ่งฉันจะล้มเอาเลยต้องเตรียมเงินไว้ก่อนเสมอ วันเกิดเหตุเมื่อ 2 เดือนก่อนฉันขึ้นที่ป้ายบางรักตอน4ทุ่มกว่าเพื่อมาลงอู่เป็นรถที่ต้องเสียเงิน พอฉันจ่ายเงินเหรียญ6.50บาทไปเราก็มองตามเห็นกระเป๋าคนนี้ไม่นับเหรียญเงินให้ดีรีบยัดเงินใส่กระป๋องเงินแล้วให้ตั๋วมาและไม่พูดอะไร พอรถวิ่งมาได้ถึงป้ายตลาดบางปะกอกพี่ชายฉันขึ้นรถมา กระเป๋าคนนี้จำได้ว่าคนนี้พี่ชายฉันเพราะลงที่อู่ดึกๆด้วยกันบ่อยๆ ก็มาบอกพี่ชายฉันตอนพี่ฉันจ่ายค่ารถบอกว่าน้องสาวคุณจ่ายค่ารถขาดไป 50 สตางค์นะ คือฉันไม่เข้าใจถ้าจ่ายขาดทำไมไม่พูดกับฉันเดี๋ยวนั้นเลย จะไปบ่นให้พี่ชายฉันฟังทำเพื่ออะไร แล้วมีอีก 1 เหตุการณ์เมื่อเดือนก่อนที่ไม่ได้เกิดขึ้นกับฉันแต่เกิดขึ้นกับผู้โดยสารคนอื่น เป็นรถรอบสุดท้ายของวันนั้นวิ่งกลับตอน 5 ทุ่มกว่า ที่ต้องผ่านสะพานกรุงเทพแต่สะพานกรุงเทพปิดไม่ให้รถวิ่งผ่าน กระเป๋าคนเดิมคนนี้และคนขับรถไม่มีการแจ้งประกาศกับลูกค้าว่าสะพานกรุงเทพปิดต้องเปลี่ยนไปวิ่งบนสะพานพระราม 3 แทนจะมีลูกค้าคนไหนต้องการลงไม๊ไม่มีประกาศถามเลยซึ่งลูกค้าอยู่เต็มคันรถซึ่งก่อนรถจะวิ่งขึ้นสะพานพระราม3มีลูกค้า3 คนเป็นผู้หญิงวัยรุ่น2คนผู้ใหญ่1คนต้องการจะลงป้ายก่อนขึ้นสะพานกรุงเทพ ซึ่งรถเมล์วิ่งผ่านไฟแดงถนนตกมุ่งตรงขึ้นสะพานพระราม3 เลยโดยไม่ถามลูกค้าก่อน ฉันเห็นมีผู้โดยสารรีบวิ่งเบียดออกมายืนทำท่าจะขอลงตั้งแต่ก่อนขึ้นสะพานพระราม3 แต่ลูกค้ากลัวๆกล้าๆเพราะไม่รู้จะยอมให้ลงนอกป้ายหรือเปล่าคนกระเป๋าคนนี้ก็อยู่บริเวณหน้ารถไม่ห่างจากบันไดนักไม่รู้สนใจลูกค้าบ้างหรือเปล่า จนรถวิ่งขึ้นสะพานพระราม3 วิ่งวนขึ้นไปได้ประมาณ 50-70 เมตรแล้ว กระเป๋าสั่งให้คนขับหยุดรถเพื่อจะให้ปล่อยลูกค้าลงบนสะพานให้เดินย้อนลงสะพานเอาเอง คนขับก็หยุดรถให้ ซึ่งทางขึ้นสะพานพระราม3เป็นทางวนโค้งและแคบพอให้รถวิ่งได้คันเดียว แต่ไม่รู้ทำไมกระเป๋าจึงตัดสินใจที่จะให้คนขับหยุดรถและจะให้ปล่อยลูกค้าลงบนสะพาน ซึ่งมันเสี่ยงอันตรายมากๆ รถที่วิ่งขึ้นสะพานแต่ละคันวิ่งกันเร็วมากๆ กระเป๋าคนนี้ไม่มีวิจารณญาณในการตัดสินใจในขณะปฏิบัติงานเลยว่าอะไรควรหรือไม่ควร ดีที่ลูกค้าทั้ง3 คนตัดสินใจไม่ยอมลงบนสะพานตามคำบอกของกระเป๋าคนนี้ ยอมให้รถวิ่งลงสะพานแล้วไปลงฝั่งโน้นดีกว่าและคาดว่าลูกค้าทั้ง3คนคงต้องเสียค่าแท็กซี่เพื่อนั่งรถย้อนกลับไปฝั่งถนนตก จากหลายๆเหตุการณ์ที่ผ่านมาฉันขอให้ทาง ขสมก.ช่วยจัดการอบรมคนเก็บเงินหรือกระเป๋ารถเมล์สาย 75 รถครีมแดงคนนี้โดยด่วน เพื่อไม่ให้ทำผิดพลาดไปมากกว่านี้ ขอขอบคุณเป็นอย่างสูง จากลูกค้าประจำ ขสมก.สาย 75

เรียน คุณผู้ใช้บริการ ขสมก.รับทราบเรื่องแล้ว ได้ส่งเรื่องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ เรียกพนักงานเก็บค่าโดยสารคันดังกล่าวมาอบรมกำชับเข้มงวด มารยาทการให้บริการ เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับความสะดวกและพึงพอใจ หากได้รับการร้องเรียนในกรณีนี้อีก องค์การจะลงโทษสถานหนักต่อไป (ขออภัยที่ไม่ได้รับความสะดวก) ขอขอบคุณที่ใช้บริการ