อยากให้พนักงานเก็บค่าโดยสารมีวิธีการจัดที่นั่งให้พระภิกษุ และมีกิริยามารยาทในการให้บริการที่ดี ในกรณีที่พระภิกษุสงฆ์ขึ้นขณะที่มีฆราวาสนั่งที่สำรองสำหรับพระอยู่ เหตุการณ์เกิดขึ้นบนรถโดยสารประจำทาง สาย 7 เลขทะเบียน 11-9796 เลขประจำรถ 6-50363 ในวันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน 2563 เวลาประมาณ 12.45 น. ขณะนั้นรถโดยสารได้จอดรับผู้โดยสาร พนักงานเก็บค่าโดยสาร (หญิง) ได้ตะโกนแจ้งว่า 2 คน (หมายความว่าสามารถขึ้นได้ 2 คน) มีพระภิกษุขึ้นด้วย พนักงานโดยสารก็รีบตะโกนบอกว่าเต็มแล้วหลวงพ่อ เราก็เห็นมีคนธรรมดาขึ้นมา 1 คน พระสงฆ์ 1 องค์ ก็สามารถขึ้นได้ไม่น่าจะผิด แต่ที่นั่งสำรองพระภิกษุมีผู้หญิงและเด็กนั่ง พนักงานเก็บค่าโดยสารแสดงความไม่พอใจที่พระสงฆ์ขึ้น ยืนมองอย่างเดียวโดยที่ไม่แจ้งคนที่นั่งว่าเป็นที่นั่งสำรองสำหรับพระ พระสงฆ์ก็ยืนรอให้ผู้ที่นั่งอยู่ลุกเปลี่ยนที่ และพนักงานขับรถก็ไม่ออกรถ เวลาผ่านไปประมาณ 1-2 นาที จนผู้โดยสารที่นั่งโต๊ะถัดไปลุกและบอกให้ผู้โดยสารที่นั่งอยู่ว่าให้เปลี่ยนมานั่งเก้าอี้ด้านหลังแทน คือไม่เข้าใจว่าพนักงานเก็บค่าโดยสารทำไมไม่พอใจที่พระภิกษุขึ้นรถโดยสาร และไม่จัดการเรื่องที่นั่งให้กับพระสงฆ์ แถมพนักงานเก็บค่าโดยสารท่านนี้ยังมีกิริยาแข็งกร้าว พูดจาเสียงดัง ห้วนจนเกือบกระโชกโฮกฮากกับผู้โดยสารที่ขึ้นรถอีก ลำพังพูดกับคนทั่วไปก็พอเข้าใจได้ว่าคงจะเหนื่อยและเบื่อจากหน้าที่ที่ทำ แต่กับพระภิกษุสงฆ์ที่เป็นที่เคารพนับถือและเลื่อมใสของพุทธศาสนิกชนทุุกคน พนักงานเก็บค่าท่านนี้โดยสารควรมีสัมมาคารวะและอำนวยความสะดวกให้ ไม่ควรทำกิริยารำคาญหรือไม่พอใจ จึงอยากให้ทางหน่วยงานของท่านมีการอบรมจริยธรรม ปรับทัศนคติสำหรับพนักงานเก็บค่าโดยสารด้วย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคงได้รับการพัฒนาการบริการที่ดีขึ้นจาก ขสมก. ต่อไป